วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันธรรมสวนะ

ไปฟังธรรมกับย่าในวันพระและเรียนรู้เกี่ยวกับกิจกรรมวันธรรมสวนะ(วันพระ)ร่วมกัน
http://www.dra.go.th/module/attach_media/sheet7520090422091148.pdf

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การสร้างคนดี

การเป็นคนดีทำได้ยาก
และเป็นคนดีอยู่คนเดียว
ก็ดำเนินชีวิตได้ยาก
มาเป็นคนดีด้วยกัน
ร่วมกันสร้างคนดีด้วยกัน
เป็นกัลยาณมิตรที่ดี
ต่อกันเริ่มจากตัวเราก่อน
แล้วต่อด้วยคนรอบตัว
(ครอบครัว)อย่าลืม
แล้วก็ต่อด้วยสังคม
ถ้าทุกคนทำได้สังคม
ก็จะมีแต่ความสุขแน่นอน

ทำดีด้วยกัน

ย่าเผลอทำเรื่องที่ถูกใจมากกว่า
ทำเรื่องที่ถูกต้องอยู่บ่อยๆ เช่น

ตื่่นนอนปุ๊บจะดื่มกาแฟทันที
(กาแฟใส่น้ำร้อน
กาแฟ2ช้อนชา+น้ำ1แก้วโตๆ)
ก่อนล้างหน้าแปรงฟันและอาบน้ำ....
รีดผ้าวันละ1-2หรือ3ชุด
ตามจำนวนคนใส่/วัน.....

รับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน.....ฯลฯ
แต่มีบางเรื่องย่าไม่ได้ถูกใจ
แต่ก็จำใจทำคือซื้อบุหรี่ให้ลูก

(ลูกฝากซื้อ)เคยไม่ซื้อฝากอยู่ระยะหนึ่ง
แต่ทนลูกเซ้าซี้ไม่ไหว
เวลาซื้อจากแม่ค้าที่รู้จักกัน
ก็จะบอกเขาว่าซื้อยาพิษให้ลูก1ซอง..
ซื้อแล้วไม่มีความสุขเอาเสียเลย

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เรียนภาษาอังกฤษ(ทบทวน)พร้อมกับหลาน

17 กุมภาพันธ์ 2555
หลานชายเรียนอยู่ชั้น ป.4 ห้องเรียน
มินิอิงลิช เปิดสมุดแบบฝึกหัดดู โอ้โฮ
ย่าต้องกลับมาเรียนภาษอังกฤษ
ทบทวนพร้อมหนูแล้วละ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กว่าจะเข้าใจ

15 กุมภาพันธ์ 2555
ส่งหลานเข้าเรียนโปรแกรมมินิอิงลิช(ภาคเรียนละ 6,000บาท)ในโรงเรียนของ สพฐ.

ย่าให้หลานเรียนประถมศึกษาเป็นภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ12ชั่วโมง (วิชาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพละศึกษา)
ปีที่1....ทำไมครูไทยพูดภาษาไทยแทรกมากจังน่าจะให้นักเรียนฝึกฟัง ตอบ ถาม มากๆ
1.กลับมาบ้านทำการบ้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา (ย่าสอนหน่อยครับ)
2.ย่าสอนการบ้านได้ (ความรู้เก่าๆยังใช้ได้)
ปีที่2....ครูไทยให้การบ้านคณิตศาสตร์มากแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ของ สสวท.ให้ทำทุกวัน
ทุกข้อ(เขียนทุกข้อแม้แต่ตอบด้วยวาจา)
1.ย่าคุยให้ครูป.2ท่านอื่นฟัง (เรียกว่าบ่นก็ได้)
2.แต่เท่าที่อยู่ดูทำการบ้านก็มีความรับผิดชอบดีนี่แม้จะหนักไปหน่อย
3.เปลี่ยนครูสอนภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์บ่อยมาก(ย่าเริ่มไม่ชอบใจ หลานต้องปรับ
การฟังสำเนียง การเรียนก็ไม่ต่อเนื่อง)
ปีที่3....อยากย้ายไปเรียนห้องปกติแต่ห้องมินิอิงลิชนักเรียน 26 คน ห้องปกตินักเรียน 40 คน
เรียนห้องมินิอิงลิชตามเดิมครูน่าจะดูแลทั่วถึงกว่าแต่
1.แบบเรียนที่ใช้บางเรื่องไม่ตรงกับระดับชั้นของหลักสูตรของสพฐ.เพราะบางวิชาเป็นของมาเลเซีย
บางวิชาเป็นของสิงคโปร์ คะแนนสอบ NT อาจไม่ดี
2.จ่ายค่าหนังสือแบบฝึกหัดปีละประมาณ700กว่า บางเล่มใช้ไปนิดเดียวเพราะยากไปสำหรับ
นักเรียน บางเล่มยังไม่ได้ทำเลย
3.วิฃาภาษาไทยไม่มีการบ้านสมุดและหนังสือแบบฝึดหัดก็ไม่เคยให้เอากลับบ้านต้องส่ง
ไว้ที่ครูทุกวัน
มันแปลกแล้วจะช่วยกันแก้ไขข้อบกพร่องของเด็กอย่างไร
ปีที่4....เตรียมรับอาเซียน เรียนต่อห้องมินินี่แหละ
1.เปิดเรียน 2 เดือนครึ่งแล้วหนังสือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ใช้เลยซื้อทำไม(ย่าไปบอก
ครูไทยที่สอนวิทยาศาสตร์)นักเรียนจึงได้ใช้จะหมดปีการศึกษาอยู่แล้วใช้ไปเพียง 20%
2.แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป4.เล่ม 1 ต่อจากของ ป.3เล่ม4 (ไม่ได้ทำเลย)นักเรียนจึง
ไม่ค่อยเข้าใจอีกทั้งสอนเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย(ย่าไปบอกครูอีกและนำสมุดแบบฝึกหัดป.3
ไปด้วยย่าพูดภาษาอังกฤษจนเมื่อยมือ)
3.ครูสอนคณิตศาสตร์ไม่ให้การบ้านเลยย่าต้องไปบอกครูให้เข้าใจว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาทักษะ
ต้องทำบ่อยๆให้ชำนาญเพราะเรียนต่อเนื่องและยากขึ้นเรื่อยๆ
ครูให้เหตุผลว่ามันยาก
ผู้ปกครองสอนไม่ได้ ย่าบอกว่าเป็นทักษะการคิดคำนวณก็ได้ครูจึงเริ่มให้การบ้าน
กว่าจะเข้าใจ
1.ถ้าครูไม่พูดภาษาไทยเลยอยู่บ้านก็ไม่มีใครนำพูดนักเรียนคงไม่เข้าใจ
2.ครูป.2 ให้ทำการบ้านคณิตศาสตร์จนเด็กเกิดทักษะถ้าไม่ได้ครู ป.2 หลานย่าคงแย่
3.ถ้าโรงเรียนไม่พร้อม ครูไม่พร้อม ตัวนักเรียนไม่พร้อม ผู้ปกครองไม่พร้อม
ต้องรีบแก้ไข
4.ย่าอ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษของหลานแล้วแปลไม่ค่อยได้เลย ย่านั่นแหละ
ที่ต้องรีบปรับปรุงตัว
5.หลานเขียนภาษาไทยไม่ค่อยถูก ย่าก็ควรรีบแก้ไขด้วย

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ครูสอนภาษาอังกฤษของย่า

Valentine's Day....14 กุมภาพันธ์ 2555
ย่ารู้จักคำว่า "Valentine's Day" เมื่อตอนเรียน ป.กศ.สูง (เรียนวิทยาลัยครูระดับอนุปริญญา)
อาจารย์ให้อ่านหนังสือพิมพ์ "Student Weekly" อ่านแล้วเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่
ย่ามีประสบการณ์ที่ดีจากการสอนของครูสอนภาษาอังกฤษมาฝาก
คนที่ 1 สอนภาษาอังกฤษเป็นคนแรกตอนจบ ป.4(ย่าเรียนที่โรงเรียนวัดสอนแค่ชั้น ป.4)
ชื่อท่านอาจารย์วันท่านเป็นพระสงฆ์ ชาวบ้านบอกว่าเป็นคนเขมร เริ่มต้นท่านให้เขียนวันละ 4 ตัว
A B C D เขียนตัวบรรจงเต็มบรรทัด เวลาส่งต้องเขียนด้วยนิ้วตามตัวอย่างเพื่อดูว่าขั้นตอน
และทิศทางการลากเส้นถูกต้องหรือไม่และอ่านออกเสียงตัวนั้นด้วย กว่าจะครบ ทั้งตัวพิมพ์ใหญ่
ตัวพิมพ์เล็ก ตัวเขียนใหญ่ ตัวเขียนเล็ก ใช้เวลา 26 วัน นานจัง แต่ทำให้ย่า
ยังเขียนได้ถูกต้องมาจนถึงทุกวันนี้

คนที่ 2 สอนภาษาอังกฤษตอน ป.5 ชื่อท่านอาจารย์เจรียง สุขสมสิน ท่านออกคำสั่ง
เป็นภาษาอังกฤษ สอนเพลงภาษาอังกฤษ
ยากจังแต่ย่าก็ยังจำได้ทั้งคำสั่งทั้งเพลง
คนที่ 3 สอนภาษาอังกฤษตอน ม.ศ.3 ชื่อท่านอาจารย์มิตร ฮั่นตรี ท่านพูดภาษาอังกฤษ
ทั้งชั่วโมง
รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ท่านให้พูดหน้าห้องเล่าเรื่องอะไรก็ได้เป็นภาษาอังกฤษ
นักเรียนเล่ากันสนุกสนาน ทำท่าทางประกอบเพื่อให้เพื่อนเข้าใจเพราะถ้าเพื่อนไม่เข้าใจ
ต้องออกไปพูดใหม่บางคนถูกเพื่อนแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ทำให้ย่าได้พูดภาษาอังกฤษยาวๆ
ให้เพื่อนในห้องฟังใช้ภาษากายประกอบด้วยบ้าง พวกเราทั้งห้องก็ทำได้

ย่าโขคดีจริงๆที่ได้เรียนกับท่านอาจารย์ทุกท่านที่กล่าวมา ย่าขอบพระคุณทุกท่านที่ให้สิ่งดีๆกับย่าค่ะ

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ความตั้งใจ

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555
ย่าอายุเริ่มมากขื้น เริ่มมองสิ่งต่างๆอย่างช้าๆไม่รีบร้อน เริ่มจากรับประทานอาหาร
อย่างไม่รีบร้อนเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำก่อนกลืน เดินให้มากขึ้น อ่านให้มากขึ้น
ไม่ทำตัวให้เป๊นภาระและพยายามทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมและสังคมให้มากขึ้น....
ทั้งหมดนี้ย่ากำลังทำอยู่และจะทำต่อไปให้ดียิ่งขึ้น